ผู้จัดทำ
วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
ยาสูบอิเล็กทรอนิกส์
ยาสูบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ บุหรี่ไฟฟ้า (อังกฤษ: electronic cigarette) หรือ บุหรี่ไอน้ำ (อังกฤษ: vapor cigarette) คือผลิตภัณฑ์ยาสูบจำพวกบุหรี่ บุหรี่ซิการ์ และบุหรี่แบบกล้องสูบ ซึ่งทำขึ้นจากอุปกรณ์ประจุแบตเตอรีที่จะส่งผ่านนิโคตินไปยังผู้สูบ โดยมีลักษณะคล้ายคลึงกับยาสูบจริง โดยทั่วไปจะมีอยู่ 2 แบบคือ แบบที่คล้ายกับบุหรี่จริง กับแบบที่เรียกว่าแบบปากกา (Pen style) มีลักษณะเหมือนบุหรี่ที่มีปลายด้านก้นกรองเสียบอยู่กับตัวต่อก้นกรองอีกชั้นหนึ่ง แต่ในปัจจุบันเริ่มมีลักษณะที่ถูกผลิตให้ไม่มีลักษณะคล้ายบุหรี่ แต่มีลักษณะคล้ายรีโมตรถยนต์ และยังมีรูปแบบที่ผู้ใช้ปรับปรุง (modify) เองด้วย ยาสูบอิเล็กทรอนิกส์ถูกคิดค้นขึ้นในประเทศจีน [1]
กระท่อม (พืช)
ารสำคัญที่พบในใบกระท่อมคือ ไมทราไจนีน (Mitragynine) เป็นสารจำพวกอัลคาลอยด์ ออกฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง (CNS depressant) เช่นเดียวกับยาเสพติดกลุ่มเดียวกัน เช่น psilocybin LSD และ ยาบ้า ทำให้รู้สึกชา กดความรู้สึกเมื่อยล้าขณะทำงานทำให้สามารถทำงานได้นานและทนมากขึ้น และทนต่อความร้อนมากขึ้นด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงทำให้ผู้ที่ใช้ใบกระท่อม สามารถทำงานกลางแจ้ง ได้ทนนานขึ้น
กระท่อมออกฤทธิ์ประเภทกระตุ้นประสาท การเสพใบกระท่อมมาก ๆ หรือเป็นระยะเวลานาน มักจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีขึ้นที่บริเวณผิวหนัง ทำให้ผู้ที่รับประทานมีผิวคล้ำและเข้มขึ้น และยังพบอีกว่าเสพกระท่อมโดยไม่ได้รูดเอาก้านใบออกจากตัวใบก่อน อาจจะทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า "ถุงท่อม" ในลำไส้ได้ เนื่องจากก้านใบและใบของกระท่อมไม่สามารถย่อยได้ จึงตกตะกอนติดค้างอยู่ภายในลำไส้ ทำให้ขับถ่ายออกมาไม่ได้ เกิดพังผืดขึ้นมาหุ้มรัดอยู่โดยรอบก้อนกากกระท่อมนั้น ทำให้เกิดเป็นก้อนถุงขึ้นมาในลำไส้ บางรายจะมีอาการโรคจิตหวาดระแวง เห็นภาพหลอน คิดว่าคนจะมาทำร้ายตน และพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง
กัญชา
กัญชา (ชื่อวิทยาศาสตร์: Cannabis indica (Cannabis sativa forma indica)) หรือในภาษาไทยเรียกว่า ปุ๊น หรือเนื้อ เป็นชื่อของพืชล้มลุกชนิดหนึ่ง ในวงศ์ Cannabidaceae ใบมนแฉกลึกเข้าไปทางก้านหลายแฉก ดอกสีเขียว ช่อดอกเพศผู้และช่อดอกเพศเมียอยู่ต่างต้นกัน ใบและช่อดอกเพศเมียที่แห้งใช้สูบปนกับยาสูบ มีสรรพคุณทำให้มึนเมา เปลือกลำต้นใช้ทำเชือกป่านและทอผ้า
cocktail
ต้นกำเนิดของเครื่องดื่มค็อกเทลนั้นไม่ปรากฏชัด ส่วนการผสมเครื่องดื่มแบบนี้มีมาแต่สมัยศตวรรษที่ 14 ในประเทศฝรั่งเศส โดยใช้เบียร์ เหล้า น้ำผึ้ง เป็นหลักแล้วจึงนำมาผสมกับเหล้าที่ใส่เครื่องเทศ และมีพัฒนาการไปใช้ ไวน์ เหล้า เครื่องเทศ น้ำตาล น้ำผลไม้ผสมกัน โดยชาวฝรั่งเศสเรียกว่า "ก็อกแตล" (coquetel)
ประมาณปี พ.ศ. 2318 ถึง พ.ศ. 2326 ทหารฝรั่งเศสเดินทางไปช่วยสหรัฐอเมริกาทำสงครามกับประเทศอังกฤษและทหารฝรั่งเศสได้ผสมเครื่องดื่มแบบนี้ดื่มกันและได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในหมู่ทหารของสหรัฐอเมริกา แม้สงครามจะหยุดลงแล้วความชื่นชอบในเครื่องดื่มชนิดนี้ก็ยังคงอยู่ และแพร่หลายในประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนการเรียกขานชื่อคาดว่าเพี้ยนมาจากคำว่า "ก็อกแตล" ในภาษาฝรั่งเศส
420
ที่มาของรหัสกัญชา 420
420 (อ่านว่า โฟร์-ทเวนตี้ หรือสี่-ยี่สิบ)
*ถึงอย่างไรก็ตาม มีหลายเรื่องเล่าที่กล่าวถึงความเป็นมาของรหัสนี้ แต่เรื่องราวของกลุ่มวอลโด้คาดว่าเป็นความจริงมากที่สุด
กลุ่มวัยรุ่นที่เรียกตัวเองว่าวอลโด้ (Waldos) ของโรงเรียนมัธยมซาน ราฟาเอล (San Rafael High School) ทางด้านเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนียในประเทศอเมริกา เลือกเวลานัดพบหลังเลิกเรียนเป็นรหัสลับระหว่างเพื่อนที่มารวมตัวสูบกัญชาด้วยกัน
ทำไมต้องสี่โมงยี่สิบ? 4:20/16:20
ช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปี 1971 - ช่วงฤดูเก็บเกี่ยวกัญชา กลุ่มวอลโด้ได้ยินถึงพื้นที่ปลูกกัญชาร้างแถวพอยท์เรย์ (Point Reyes) จึงตัดสินใจว่าหลังเลิกเรียนทุกวัน จะขับรถออกตามหาไร่กัญชานี้ด้วยกัน - และแน่นอนพวกเขาก็สูบกัญชาไปด้วย
กลุ่มวัลโด้เลือกเวลา 16:20 เพราะทุกคนมีกิจกรรมหลังเลิกเรียนหมด จึงเลือกเวลาที่สะดวกให้ทุกคนมาเจอ และตั้งจุดนับกันที่รูปปั้นหลุยส์ ปาสเตอร์ (Louis Pasteur statue) ในโรงเรียน แต่ก่อนจะมีชื่อเรียกแผนการว่า 4:20 หลุยส์ (4:20 Louis) แต่หลักจากการค้นหาไร่กัญชาไม่เป็นผลสำเร็จ ชื่อเรียกเลยถูกย่อเหลือเพียง 420
จากกลุ่มวัยรุ่นเล็กๆในแคลิฟอร์เนีย ทำไมรหัสนี้จึงได้ถูกแพร่ออกไปทั่วอเมริกา?
ในช่วงยุค70 วงดนตรีร็อค เดอะ เกรทฟูล เดด (The Grateful Dead) กำลังเริ่มทัวร์ และพี่ชายของหนึ่งในกลุ่มของวอลโด้ซึ่งเป็นผู้จัดการวงดนตรีที่เล่นคู่กันกับวงเดอะเดดและเป็นเพื่อนสนิทกับมือเบส ฟิล เลช (Phil Lesh) ด้วย
กลุ่มวอลโด้จึงมีโอกาสได้เข้าหลังเวทีไปสูบกัญชากับพวกนักดนตรีกลุ่มเดอะเดดช่วงที่ทัวร์อยู่ในแคลิฟอร์เนีย และเวลามีคนส่งจ๊อยท์ (joint หรือที่เรียกว่าพันลำ) ก็จะพูดกันเสมอว่า เฮ้ 420 และก็กลายเป็นคำติดปากและรู้กันของแฟนคลับวงเดอะเดด
และเมื่อถึงยุครุ่งเรื่องของวงเดอะเดดที่ได้ทัวร์รอบอเมริกาในยุค 70’s และ 80’s เรื่องราวของ 420 ได้มาถึงหูของบก.ของนิตยสาร High Times ด้วยแผ่นพับเกี่ยวกับ 420 ที่ได้ถูกแจกจ่ายในงานคอนเสิร์ตของวงเดอะเดด
ช่วงนั้นกำลังเข้าสู่ยุค90’sและอินเตอเน็ทกำลังเพิ่งเริ่ม นิตยสาร High Times จึงได้ไปลงทะเบียนชื่อเว็บไว้ www.420.com และตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับ420ที่เขียนไว้บนแผ่นพับนั้น (ซึ่งได้เขียนไว้ว่าเป็นรหัสที่ตำรวจจะแจ้งเมื่อเกี่ยวกับกัญชา แต่มันไม่ได้เป็นความจริงและไม่ได้เขียนระบุถึงกลุ่มวอลโด้) และหลังจากนั้น รหัสนี้จึงได้แพร่กระจายไปสู่หมู่กลุ่มชาวสโตเนอร์ทั่วอเมริกา
ผู้จัดทำ
นาย ศักดิธัช เถาว์ชาลี ม.3/8 เลขที่ 3
โรงเรียนพูลเจริญวิทยาคม
อำเภอบางพลี ตำบลบางโฉลง จังหวัดสมุทรปราการ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)